หน่วยที่ 5 ตั๋วเงินรับ
ใบความรู้หน่วยที่ 5 การบัญชีเกี่ยวกับตั๋วเงิน
  | 
ตั๋วเงิน หมายถึง ตราสารที่ลูกหนี้หรือผู้จ่ายเงินจัดทำขึ้นมาและส่งมอบให้กับเจ้าหนี้ถือไว้เพื่อรอเวลาชำระหนี้ตามเวลาที่ระบุไว้ในตราสารนั้น
ตั๋วเงิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แบ่งได้ 3 ประเภท คือ
- ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange)
 - ตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note)
 - เช็ค (Cheque หรือ Check)
 
ตั๋วเงินในทางบัญชี แบ่งได้ 2 ประเภทคือ
- ตั๋วเงินรับ (Note Recievable)
 - ตั๋วเงินจ่าย (Note Payable)
 
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้บัญญัติเกี่ยวกับตั๋วเงินไว้ ดังนี้
| 
 ตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange)  | 
 ตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note)  | 
| 
 มาตรา 908 อันว่าตั๋วแลกเงินนั้น คือ หนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่ง เรียกว่า ผู้สั่งจ่าย สั่งบุคคลอีกคนหนึ่งเรียกว่า ผู้จ่ายให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลหนึ่ง หรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลหนึ่งเรียกว่า “ผู้รับเงิน  | 
 มาตรา 982 อันว่าตั๋วสัญญาใช้เงินนั้น คือ หนังสือตราสารซึ่งบุคคลหนึ่ง เรียกว่า ผู้ออกตั๋ว ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่บุคคลอีกคนหนึ่ง หรือใช้ให้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า “ผู้รับเงิน  | 
| 
 มาตรา 909 อันตั๋วแลกเงินนั้นต้องมีรายการดังกล่าวต่อไปนี้ คือ 
 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับตั๋วแลกเงินมี 3 ฝ่ายคือ 
 การรับรองตั๋วแลกเงินจะสมบูรณ์ได้ต่อเมื่อมีผู้จ่ายเงินรับรองตั๋วโดยเขียนคำว่า “รับรองแล้ว” พร้อมทั้งลงลายมือชื่อและวันที่ไว้บนด้านหน้าของตั๋ว ตั๋วแลกเงินมักใช้ในกรณีชำระหนี้ค่าสินค้าที่ซื้อขายระหว่างประเทศ  | 
 มาตรา 983 ตั๋วสัญญาใช้เงินนั้นต้องมีรายการดังกล่าวต่อนี้คือ 
 
 
 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับตั๋วสัญญาใช้เงินมี 2 ฝ่ายคือ 
  | 
| 
 2. วันครบกำหนดชำระเงิน (Maturity Date)  | 
การกำหนดวันครบกำหนดชำระเงินตามตั๋ว อาจจะกำหนดได้ดังนี้
- จ่ายเงินเมื่อทวงถาม โดยผู้รับเงินต้องบอกกล่าวให้ผู้จ่ายเงินทราบล่วงหน้าก่อนแล้ว
 - กำหนดวันที่ที่ต้องจ่ายเงินลงไว้ในตั๋ว
 - กำหนดโดยระบุระยะเวลาที่ตั๋วนั้นจะครบกำหนดชำระเงิน ดังนี้
 
ก. กำหนดระยะเวลาเป็นปี วันครบกำหนด คือวันที่และเดือนที่ออกตั๋ว แต่เป็นปีถัดไป เช่น ตั๋วเงินลงวันที่ 5 ธันวาคม 2553 กำหนดเวลา 1 ปี วันครบกำหนดคือ วันที่ 5 ธันวาคม 2554
ข. กำหนดระยะเวลาเป็นเดือน วันครบกำหนด คือ วันที่ออกตั๋วเดิมแต่เป็นเดือนที่ครบกำหนด เช่น ตั๋วลงวันที่ 23 กันยายน 2553 กำหนดเวลา 3 เดือน วันครบกำหนดคือวันที่ 23 ธันวาคม 2553
ค. กำหนดระยะเวลาเป็นวัน การนับวันครบกำหนดจะไม่นับวันที่ออกตั๋วแต่นับวันที่ครบกำหนดรวมอยู่ด้วย เช่น ตั๋วลงวันที่ 10 ตุลาคม 2554 กำหนดเวลา 30 วัน การคำนวณวันครบกำหนด
จำนวนวันของเดือน ต.ค คือ ( 31 – 10) = 21 วัน
จำนวนวันเดือน พ.ย = 9 วัน
รวม 30 วัน
วันครบกำหนดคือ 9 พฤศจิกายน 2554
| 
 3. การคำนวณดอกเบี้ยตั๋วเงิน  | 
ตั๋วเงินแบ่งออกเป็นตั๋วเงินชนิดมีดอกเบี้ย และตั๋วเงินชนิดไม่มีดอกเบี้ย ดังนั้นกรณีตั๋วเงินชนิดมีดอกเบี้ย เมื่อถึงกำหนดเวลาชำระเงินจะต้องชำระเงินตามจำนวนเงินหน้าตั๋วและรวมดอกเบี้ยของตั๋วเงิน
ดอกเบี้ยตั๋วเงินคำนวณได้ดังนี้
| 
 
 ดอกเบี้ยตั๋วเงิน = จำนวนเงินหน้าตั๋ว x อัตราดอกเบี้ย x ระยะเวลาของตั๋ว 
  | 
วันออกตั๋ว วันครบกำหนดชำระเงิน
| 
 
  | 
| 
 
  | 
เงินหน้าตั๋ว 10,000 (เงินหน้าตั๋ว + ดอกเบี้ย)
ระยะเวลาดอกเบี้ยตั๋วเงิน (10,000 + ? )
| 
 4. การคำนวณดอกเบี้ยพ้นกำหนด  | 
ดอกเบี้ยพ้นกำหนด หมายถึง ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่วันที่ตั๋วครบกำหนดจนถึงวันที่ผู้ออกตั๋วนำเงินมาชำระหนี้ที่ผิดนัด
วันออกตั๋ว
æ ระยะเวลาพ้นกำหนด K
--------------------------- วันที่ลูกหนี้นำเงินมาชำระ
| 
 
  | 
| 
 
  | 
วันครบกำหนดชำระเงิน
การคำนวณ
- จำนวนเงินตามหน้าตั๋ว
 - อัตราดอกเบี้ย
 
- ถ้าเป็นตั๋วเงินชนิดมีดอกเบี้ยให้ใช้อัตราดอกเบี้ยตามตั๋ว
- ถ้าเป็นตั๋วเงินชนิดไม่มีดอกเบี้ยกฎหมายกำหนดให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
- ระยะเวลาที่พ้นกำหนด
 
ดอกเบี้ยพ้นกำหนด = จำนวนเงินหน้าตั๋ว x อัตราดอกเบี้ย x ระยะเวลาพ้นกำหนด
| 
 5. การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับตั๋วเงิน  | 
ในทางบัญชีตั๋วเงินเป็นเอกสารทางการเงินชนิดหนึ่งและเป็นหลักฐานการเป็นหนี้ที่ดีกว่าลูกหนี้การค้าในบัญชี เนื่องจากการซื้อขายสินค้าและชำระหนี้จะจ่ายชำระหนี้เงินสดแล้วยังอาจจ่ายชำระเป็นตั๋วเงินได้ด้วย
ตั๋วแลกเงิน Ü รับตั๋ว Ü เรียกว่าตั๋วเงินรับ Ü เป็นสินทรัพย์
ตั๋วเงิน
ตั๋วสัญญาใช้เงิน Ü ออกตั๋ว Ü เรียกว่าตั๋วเงินจ่าย Ü เป็นหนี้สิน
ถ้ากิจการรับตั๋วเป็นการชำระหนี้ไม่ว่าจะเป็นตั๋วแลกเงิน หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน จะบันทึกบัญชี “ตั๋วเงินรับ” และเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนของกิจการ
ถ้ากิจการออกตั๋ว, จ่ายตั๋วหรือรับรองตั๋วเพื่อชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วแลกเงิน หรือ ตั๋วสัญญาใช้เงิน จะบันทึกบัญชีเป็น “บัญชีตั๋วเงินจ่าย” ซึ่งเป็นบัญชีประเภทหนี้สินหมุนเวียน
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับตั๋วเงิน จำแนกได้ คือ
- การบันทึกบัญชีตั๋วเงินรับ
- การบันทึกบัญชีตั๋วเงินจ่าย
| 
 6. การบันทึกบัญชีตั๋วเงินรับ  | 
การบันทึกบัญชีจะเกี่ยวข้องกับเรื่องดังนี้
- กิจการรับตั๋วเงิน (ตั๋วแลกเงินหรือสัญญาใช้เงิน)
 
- รับจากลูกค้าเป็นค่าสินค้าหรือบริการ
- รับจากลูกหนี้เป็นการรับชำระหนี้
- ถึงวันครบกำหนดชำระเงินตามตั๋ว
 - การหาประโยชน์จากตั๋วเงินรับก่อนถึงวันครบกำหนดชำระเงิน
 - การปรับปรุงบัญชีเกี่ยวกับตั๋วเงินรับ
 - การแสดงรายการตั๋วเงินรับในงบดุล
 
วันที่ออกตั๋ว อายุของตั๋ว วันครบกำหนดชำระเงิน
| 
 
  | 
- รับชำเป็นค่าสินค้าและบริการ 1. กรณีได้รับเงินตามตั๋ว
 - รับชำระหนี้จากลูกหนี้ 2. กรณีได้รับเฉพาะดอกเบี้ย และรับตั๋วเงิน
 
ฉบับใหม่แทนฉบับเก่า
3. กรณีไม่ได้รับเงินตามตั๋ว เรียกว่า
“ตั๋วเงินรับขาดความเชื่อถือ”
6.1 รับตั๋วเงิน
| 
 ตั๋วชนิดมีดอกเบี้ย  | 
 ตั๋วชนิดไม่มีดอกเบี้ย  | 
| 
 ก.พ 1 Dr. ตั๋วเงินรับ xxx Cr. ขายสินค้า/ลูกหนี้ xxx  | 
 ก.พ 1 Dr. ตั๋วเงินรับ xxx Cr. ขายสินค้า/ลูกหนี้ xxx  | 
6.2 วันครบกำหนดชำระเงิน อาจเกิดขึ้นได้ 3 กรณีคือ
| 
 ตั๋วชนิดมีดอกเบี้ย  | 
 ตั๋วชนิดไม่มีดอกเบี้ย  | 
| 
 กรณีได้รับเงินตามตั๋ว ก.พ 1 Dr. เงินสด xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx ดอกเบี้ยรับ xxx  | 
 กรณีได้รับเงินตามตั๋ว ก.พ 1 Dr. เงินสด xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx 
  | 
| 
 กรณีรับตั๋วฉบับใหม่แทนตั๋วฉบับเก่า เม.ย 2 Dr. เงินสด xxx Cr. ดอกเบี้ยรับ xxx Dr. ตั๋วเงินรับ (ฉบับใหม่) xxx Cr. ตั๋วเงินรับ (ฉบับเก่า) xxx  | 
 กรณีรับตั๋วฉบับใหม่แทนตั๋วฉบับเก่า เม.ย 2 Dr. ตั๋วเงินรับ (ฉบับใหม่) xxx Cr. ตั๋วเงินรับ (ฉบับเก่า) xxx  | 
| 
 กรณีตั่วเงินรับขาดความเชื่อถือ เม.ย 2 Dr. ลูกหนี้ xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx ดอกเบี้ยรับ xxx เงินสด (ค่าใช้จ่าย) xxx  | 
 กรณีตั่วเงินรับขาดความเชื่อถือ เม.ย 2 Dr. ลูกหนี้ xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx เงินสด (ค่าใช้จ่าย) xxx  | 
| 
 ลูกหนี้นำเงินมาชำระพร้อมดอกเบี้ยพ้นกำหนด เม.ย 8 Dr. เงินสด xxx Cr. ลูกหนี้ xxx ดอกเบี้ยรับ xxx  | 
 ลูกหนี้นำเงินมาชำระพร้อมดอกเบี้ยพ้นกำหนด เม.ย 8 Dr. เงินสด xxx Cr. ลูกหนี้ xxx ดอกเบี้ยรับ xxx  | 
6.3 การนำตั๋วเงินรับไปหาประโยชน์ก่อนถึงวันตั๋วครบกำหนดชำระเงิน
รับตั๋วเงิน วันที่นำตั๋วเงินรับไปหาประโยชน์ วันครบกำหนดชำระเงิน
| 
 ò  | 
Dr. ตั๋วเงินรับ xx 1. การนำตั๋วเงินรับไปขายลดกับธนาคารหรือเรียกว่า
Cr. ขาย/ลูกหนี้ xx “ตั๋วเงินรับขายลด”
2. การโอนตั๋วเงินรับให้บุคคลอื่นโดย
- โอนตามมูลค่าหน้าตั๋ว
- โอนตามมูลค่าปัจจุบันของตั๋ว
- โอนโดยหักส่วนลดจากมูลค่าตั๋วครบกำหนด
- โอนโดยกำหนดมูลค่าของตั๋วขึ้นใหม่
6.3.1 ตั๋วเงินรับขายลด คือ การนำตั๋วเงินรับที่ถือไว้เมื่อยังไม่ครบกำหนดชำระเงินไปโอนขายลดให้แก่ธนาคาร โดยผู้ถือตั๋วจะเซ็นชื่อสลักหลังตั๋วและส่งมอบตั๋วนั้นให้ธนาคาร เพื่อแลกเอาเงินสดมาโดยผู้ถือตั๋วจะได้รับเงินจากธนาคารตามจำนวนเงินเท่ากับมูลค่าของตั๋วเงินเมื่อครบกำหนดหักด้วยส่วนลด
รับตั๋วเงิน วันขายลดธนาคาร วันครบกำหนดชำระเงิน
| 
 ò  | 
ò ò ระยะเวลาขายลด ò
มูลค่าตั๋วครบกำหนด
(เงินหน้าตั๋ว + ดอกเบี้ยตั๋ว)
การคำนวณจำนวนเงินที่ได้รับจากตั๋วเงินรับขายลด
| 
 
 จำนวนเงินที่ได้รับ = มูลค่าตั๋วครบกำหนด - ส่วนลดที่ธนาคารหัก มูลค่าตั๋วครบกำหนด = เงินหน้าตั๋ว + ดอกเบี้ยตั๋ว ส่วนลดที่ธนาคารหัก = มูลค่าตั๋วครบกำหนด x อัตราส่วนลด x ระยะเวลาขายลด 
  | 
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับตั๋วเงินรับขายลด
จำนวนเงินที่ได้รับจากการขายลดตั๋วเงินรับให้ธนาคาร อาจจะสูงหรือต่ำกว่าจำนวนเงินหน้าตั๋ว ถ้าสูงกว่าถือว่าเป็นดอกเบี้ยรับแต่ถ้าต่ำกว่าถือว่าเป็นดอกเบี้ยจ่าย
| 
 วันรับตั๋ว ก.ย 1 Dr. ตั๋วเงินรับ xxx Cr. ลูกหนี้ – บริษัทกมลทิพย์ xxx 
  | 
| 
 วันขายลดธนาคาร ต.ค 15 Dr. เงินสด xxx Cr. ตั๋วเงินรับขายลด xxx ดอกเบี้ยรับ xxx  | 
| 
 วันครบกำหนดชำระเงินตามตั๋วธนาคารเรียกเก็บเงินได้ครบ ต.ค 31 Dr. ตั๋วเงินรับขายลด xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx  | 
กรณีธนาคารแจ้งกิจการว่าเรียกเก็บเงินตามตั๋วเงินไม่ได้หรือเรียกว่า “ตั๋วเงินรับขายลดขาดความเชื่อถือ” กิจการจะต้องจ่ายเงินให้แก่ธนาคารแทน และบันทึกบัญชีให้ผู้จ่ายเงินตามตั๋วเป็นลูกหนี้ของกิจการตามจำนวนเงินหน้าตั๋วและดอกเบี้ยตั๋ว (ถ้ามี) และค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ค่าแจ้งความทำคำคัดค้าน ถ้ากรณีนี้ธนาคารได้จ่ายค่าธรรมเนียมการแจ้งความ การบันทึกบัญชีจะเป็นดังนี้
| 
 บันทึกยกเลิกหนี้สินที่เกิดจากตั๋วเงินรับขายลด ต.ค 31 Dr. ตั๋วเงินรับขายลด xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx 
 บันทึกการชำระหนี้ตามตั๋วเงินรับขายลดขาดความเชื่อถือ Dr. ลูกหนี้ (เงินหน้าตั๋ว + ดอกเบี้ยตั๋ว +ค่าใช้จ่าย) xxx Cr. เงินสด xxx  | 
6.3.2 การโอนตั๋วเงินรับให้บุคคลอื่น หมายถึง การโอนตั๋วเงินรับที่ถือไว้เมื่อยังไม่ครบกำหนดชำระเงินให้บุคคลอื่นเพื่อเป็นการชำระหนี้แทนการชำระหนี้ด้วยเงินสด โดยผู้โอนและผู้รับโอนต้องตกลงกันก่อนว่าจะกำหนดค่าของตั๋วเงินที่โอนเป็นจำนวนเงินเท่าใด แต่ผู้โอนยังคงรับผิดชอบตั๋วที่โอน ถ้าตั๋วขาดความเชื่อถือ สำหรับการโอนนั้นผู้มีสิทธิรับเงินตามตั๋วจะทำการโอนโดยสลักหลังตั๋วให้ ซึ่งมีวิธีการคำนวณมูลค่าของตั๋วเงินที่โอนอยู่ 4 วิธี ดังนี้
                 6.3.2.1  การโอนตั๋วเงินรับตามมูลค่าของเงินหน้าตั๋ว  การโอนวิธีนี้มักใช้กับตั๋วเงินชนิดไม่มีดอกเบี้ย
| 
 นาย ก. (ผู้โอน)  | 
 นาย ค. (ผู้รับโอน 
  | 
| 
 วันโอนตั๋ว พ.ย 1 Dr. เจ้าหนี้- นาย ข. xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx  | 
 วันโอนตั๋ว พ.ย 1 Dr. ตั๋วเงินรับ xxx Cr. ลูกหนี้-นาย ก. Xxx 
 
  | 
| 
 วันครบกำหนด ธ.ค 1 กรณีเรียกเก็บเงินตามตั๋วเงินได้ไม่ต้องบันทึกบัญชี  | 
 วันครบกำหนด ธ.ค 1 Dr. เงินสด xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx 
 
  | 
| 
 กรณีตั่วเงินรับขาดความเชื่อถือ ธ.ค 1 Dr. ลูกหนี้ xxx Cr. เงินสด xxx 
  | 
 กรณีตั่วเงินรับขาดความเชื่อถือ ธ.ค 1 Dr. เงินสด xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx 
  | 
6.3.2.2 การโอนตั๋วเงินรับตามมูลค่าปัจจุบันของตั๋ว
ก. กรณีโอนตั๋วชนิดมีดอกเบี้ย
การคำนวณ
มูลค่าปัจจุบัน = จำนวนเงินหน้าตั๋ว + ดอกเบี้ยของตั๋วถึงวันโอน
ดอกเบี้ยของตั๋วถึงวันโอน = จำนวนเงินหน้าตั๋ว x อัตราดอกเบี้ย x ระยะเวลาถือตั๋ว)
ระยะเวลาถือตั๋ว = วันออกตั๋ว - วันโอนตั๋ว
| 
 นาย ก. (ผู้โอน)  | 
 นาย ค. (ผู้รับโอน 
  | 
| 
 วันโอนตั๋ว พ.ย 1 Dr. เจ้าหนี้- นาย ข. xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx ดอกเบี้ยรับ xxx  | 
 วันโอนตั๋ว พ.ย 1 Dr. ตั๋วเงินรับ xxx ดอกเบี้ยรับ (ผลต่าง) xxx Cr. ลูกหนี้-นาย ก. Xxx ** ผลต่าง หมายถึง มูลค่าปัจจุบันของตั๋วที่โอนกับเงินหน้าตั๋ว  | 
| 
 วันครบกำหนด ธ.ค 1 กรณีเรียกเก็บเงินตามตั๋วเงินได้ไม่ต้องบันทึกบัญชี  | 
 วันครบกำหนด ธ.ค 1 Dr. เงินสด (จากนาย ข.) xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx ดอกเบี้ยรับ xxx  | 
| 
 กรณีตั่วเงินรับขาดความเชื่อถือ ธ.ค 1 Dr. ลูกหนี้ (จากนาย ข.) xxx Cr. เงินสด xxx 
  | 
 กรณีตั่วเงินรับขาดความเชื่อถือ ธ.ค 1Dr. เงินสด (จากนาย ก.) xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx ดอกเบี้ยรับ xxx 
  | 
ข. กรณีโอนตั๋วชนิดไม่มีดอกเบี้ย
การคำนวณ
มูลค่าปัจจุบัน = จำนวนเงินหน้าตั๋ว - ส่วนลด
ส่วนลด = มูลค่าปัจจุบัน x อัตราส่วนลด x ระยะเวลาที่ถือตั่วนับแต่วันโอนจนถึงวัน
ครบกำหนด หรือ (ระยะเวลาคำนวณส่วนลด)
มูลค่าปัจจุบัน = จำนวนเงินหน้าตั๋ว - (มูลค่าปัจจุบัน x อัตรส่วนลด x ระยะเวลาคำนวณส่วนลด)
| 
 นาย ก. (ผู้โอน)  | 
 นาย ค. (ผู้รับโอน 
  | 
| 
 วันโอนตั๋ว พ.ย 1 Dr. เจ้าหนี้- นาย ค. xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx ดอกเบี้ยจ่าย xxx  | 
 วันโอนตั๋ว พ.ย 1 Dr. ตั๋วเงินรับ xxx Cr. ลูกหนี้-นาย ก. Xxx ดอกเบี้ยรับ xxx  | 
| 
 วันครบกำหนด ธ.ค 1 กรณีเรียกเก็บเงินตามตั๋วเงินได้ไม่ต้องบันทึกบัญชี  | 
 วันครบกำหนด ธ.ค 1 Dr. เงินสด (จากนาย ข.) xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx 
  | 
| 
 กรณีตั่วเงินรับขาดความเชื่อถือ ธ.ค 1 Dr. ลูกหนี้ (จากนาย ข.) xxx Cr. เงินสด xxx 
  | 
 กรณีตั่วเงินรับขาดความเชื่อถือ ธ.ค 1Dr. เงินสด (จากนาย ก.) xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx 
 
  | 
6.3.2.3 การโอนโดยหักส่วนลดจากมูลค่าตั๋วครบกำหนด
การคำนวณ
จำนวนเงินที่โอน = มูลค่าตั๋วครบกำหนด - ส่วนลด
มูลค่าตั๋วครบกำหนด = จำนวนเงินหน้าตั๋ว + ดอกเบี้ยตั๋ว
ส่วนลด = มูลค่าตั๋วครบกำหนด x อัตราส่วนลด x ระยะเวลาของส่วนลดตั้งแต่
วันโอน - วันครบกำหนด)
| 
 นาย ก. (ผู้โอน)  | 
 นาย ค. (ผู้รับโอน 
  | 
| 
 วันโอนตั๋ว พ.ย 1 Dr. เจ้าหนี้- นาย ค. xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx ดอกเบี้ยรับ xxx  | 
 วันโอนตั๋ว พ.ย 1 Dr. ตั๋วเงินรับ xxx ดอกเบี้ยรับ (ผลต่าง) xxx Cr. ลูกหนี้-นาย ก. Xxx 
  | 
| 
 วันครบกำหนด ธ.ค 1 กรณีเรียกเก็บเงินตามตั๋วเงินได้ไม่ต้องบันทึกบัญชี  | 
 วันครบกำหนด ธ.ค 1 Dr. เงินสด (จากนาย ข.) xxx Cr. ตั๋วเงินรับ xxx ดอกเบี้ยรับ  |